นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ถือหุ้นและกรรมการ
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ปี 2562
นโยบายความเป็นส่วนตัวผู้ค้าคู่ค้าและผู้รับเหมา
นโยบาบความเป็นส่วนตัวผู้เข้ารับบริการทางการแพทย์
นโยบายความเป็นส่วนตัวกรรมการผู้ถือหุ้น
นโยบายความเป็นส่วนตัวผู้สมัครงานและพนักงาน
แบบฟอร์ม
แบบฟอร์มยื่นคำร้องผ่านระบบออนไลน์
แบบฟอร์มคำร้องขอใช้สิทธิเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
แบบฟอร์มแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
เอกสารคู่มือ
บริษัท โรงพยาบาลศุภมิตร จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) เคารพและให้ความสำคัญในสิทธิความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะผู้ถือหุ้น กรรมการและตัวแทนของบุคคลดังกล่าว (“ท่าน”) ที่บริษัทในฐานะผู้จัดการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีทั้งในรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์ และกิจกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับ (“กิจกรรม”) และมีความรับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของบริษัท และมุ่งมั่นที่จะจัดการข้อมูลดังกล่าวด้วยวิธีการที่มั่นคงปลอดภัยและน่าเชื่อถือในการนี้ บริษัทจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับการจัดกิจกรรมฉบับนี้ (“ประกาศ”) เพื่ออธิบายถึงวิธีการปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว
และชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ การเปิดเผย และวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลพร้อมแจ้งสิทธิต่าง ๆ ของท่าน ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
ข้อ 1. ประเภทและแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านโดยการขอข้อมูลจากท่านโดยตรง ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบเอกสาร
หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยอาจให้ท่านกรอกข้อมูลลงในเอกสารที่บริษัทจัดเตรียมไว้ หรือกรอกข้อมูลลงในแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ทางบริษัทได้กำหนด และ/หรือวิธีอื่นใด อย่างไรก็ตาม ด้วยลักษณะของกิจกรรม บริษัทจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลของท่านบางประการ ซึ่งอาจเป็นข้อมูลที่บริษัทได้รับจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากท่านโดยตรง เช่น การจัดเก็บข้อมูลผู้ถือหุ้นจากนายทะเบียนหลักทรัพย์ หรือข้อมูลบัญชีธนาคารซึ่งท่านกำหนดให้เป็นบัญชีรับชำระเงินปันผล ทั้งนี้ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจัดเก็บจากท่านอาจแตกต่างกันแล้วแต่กรณี และลักษณะของกิจกรรมที่บริษัทจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลของท่าน
1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
1. ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน (Identity Data) เช่น ชื่อ ชื่อสกุล เลขประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง
วัน เดือน ปีเกิด เพศ อายุ ลายมือชื่อ ข้อมูลการเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุล ภาพถ่าย เป็นต้น
2. ข้อมูลติดต่อ (Contact Data) เช่น ที่อยู่ เบอร์โทร ที่อยู่อีเมล เป็นต้น
3. ข้อมูลทางการเงิน (Financial Data) เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร จำนวนหุ้น หุ้นกู้ เป็นต้น
4. ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นโดยบริษัท และ/หรือข้อมูลการติดต่อกับบริษัท
(Communication Data) เช่น บันทึกภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหวหรือทั้งภาพ
และ/หรือเสียงเมื่อท่านได้ติดต่อเข้าร่วมการประชุมประจำปี หรือเข้าร่วมกิจกรรมอื่นใดกับบริษัท
5. ข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น บัญชีผู้ใช้แอปพลิเคชัน ไลน์ไอดี เป็นต้น
6. ข้อมูลที่เกี่ยวกับการแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ คำแนะนำต่าง ๆ ตลอดเวลาที่ท่านเข้าร่วมกิจกรรม
7. ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ เช่น อาชีพ เป็นต้น
1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว
1. บริษัทไม่มีความประสงค์จะจัดเก็บ รวบรวม ใช้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งจัดเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน เช่น เชื้อชาติ ข้อมูลหมู่โลหิต หรือข้อมูลศาสนา ถึงแม้ว่าข้อมูลดังกล่าวจะปรากฏอยู่บนบัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน หรือเอกสารอื่นใดที่ท่านได้สมัครใจเปิดเผยไว้ต่อบริษัทก็ตาม ทั้งนี้ หากท่านได้ทำการส่งมอบข้อมูลใด ๆ ซึ่งปรากฏข้อมูลที่มีลักษณะเช่นว่านี้ให้แก่บริษัทไม่ว่าจะเป็นการส่งมอบข้อมูลในลักษณะเป็นเอกสาร
หรือสื่ออื่นใด ท่านจะต้องปกปิดข้อมูลอ่อนไหวเหล่านี้ ด้วยตัวท่านเอง หากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลด้วยตัวท่านเอง บริษัทถือว่าท่านได้อนุญาตโดยชัดแจ้งให้บริษัททำการปกปิดข้อมูลเหล่านี้ให้แก่ท่าน และให้ถือว่าข้อมูลที่ท่านส่งมอบมานี้ซึ่งบริษัทได้จัดการปกปิดข้อมูลอ่อนไหวให้แก่ท่านแล้วเป็นเอกสารที่สมบูรณ์ ใช้บังคับได้ตามกฎหมายทุกประการและให้บริษัทสามารถนำไปประมวลผลได้ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่บริษัทไม่สามารถจัดการปกปิดข้อมูลอ่อนไหวแก่ท่านได้ เนื่องด้วยปัญหาเชิงเทคนิค หรือปัญหาอื่นใด บริษัทจะทำการจัดเก็บข้อมูลอ่อนไหวนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น
2. กิจกรรมที่ท่านได้เข้าร่วมแล้วหรือจะได้เข้าร่วมในอนาคตซึ่งอาจมีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวเพิ่มเติม เช่น ข้อมูลสุขภาพของท่าน ทั้งนี้ การจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อการให้บริการและอำนวยความสะดวกอย่างดีที่สุดแก่ท่านเท่านั้น และในการจัดเก็บข้อมูลอ่อนไหวนี้ บริษัทจะได้ทำการขอความยินยอมของท่านไว้โดยชัดแจ้ง โดยทำเป็นเอกสารขอความยินยอมก่อนการจัดเก็บข้อมูลอ่อนไหวเหล่านั้นเสมอ
1.3 บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ
โดยจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง รวมทั้งจากหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานที่กำกับดูแล
ข้อมูลที่มีการเปิดเผยสู่สาธารณะ ดังนี้
1. ในกระบวนการสรรหา บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากบัตรประจำตัวประชาชน
และ/หรือเอกสารอื่นใดที่สามารถใช้ในการยืนยันตัวตนได้ หรือเอกสารที่ทางราชการออกให้ เช่น ชื่อนามสกุล เพศ หมายเลขประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง รูปถ่าย วันเดือนปีเกิด สัญชาติ สถานที่เกิด ส่วนสูง
2. บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการเพิ่มเติม เช่น การถือครอง ซื้อ ขาย หลักทรัพย์ของบริษัท การจ่ายค่าตอบแทนกรรมการ การจัดอบรม การจัดกิจกรรม สถานะการสมรส ข้อมูลเกี่ยวกับคู่สมรส ผู้ที่อยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยา บุตร บิดามารดา พี่น้อง หมู่โลหิต หมายเลขบัญชีธนาคาร อีเมล ประวัติการศึกษา อาชีพ ประวัติการทำงาน การเป็นกรรมการ หรือมีตำแหน่งในบริษัทหรือกิจการอื่น ๆ การเข้าประชุมคณะกรรมการบริษัท หรือคณะกรรมการชุดย่อย หรือผู้ถือหุ้น ชื่อบริษัทหลักทรัพย์ ผลการปฏิบัติงานของกรรมการ
และข้อมูลอื่นตามที่กฎหมาย หรือหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีกำหนด
1.4 ในกรณีที่เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อท่านได้จองซื้อ เป็นผู้ถือหุ้น หรือเป็นผู้ถือหุ้นกู้ บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง รวมทั้งอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านผ่านทางนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (Broker) หรือนายทะเบียนหลักทรัพย์ด้วย เช่น ช่องทางการติดต่อ สัญชาติ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เลขประจำตัวประชาชน จำนวนหุ้น เป็นต้น
ข้อ 2. วัตถุประสงค์ และฐานในการประมวลผลข้อมูล
บริษัทประมวลผลข้อมูลโดยอาจอาศัยหรืออ้าง (1) ฐานความยินยอมเพื่อประมวลผลข้อมูลของท่าน (2) ฐานการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเริ่มต้นทำสัญญา หรือการเข้าทำสัญญา หรือการปฏิบัติตามสัญญากับท่าน(3) ฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท (4) ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอก (5) ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ/หรือ (6) ฐานประโยชน์สาธารณะสำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด แล้วแต่กรณี ซึ่งในประกาศฉบับนี้ บริษัทจะประมวลผลข้อมูลของท่านโดยแยกตามกิจกรรมที่บริษัทดำเนินการภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังนี้
-
เพื่อบริหารจัดการงานทะเบียน การมอบฉันทะ และการดำเนินงานอื่น ๆ ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัดหรือกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือกฎหมายอื่น ๆที่เกี่ยวข้อง เช่น การบริหารจัดการบริษัท (เช่น การเริ่มตั้ง การเพิ่มทุน ลดทุน การปรับโครงสร้างกิจการ การเปลี่ยนแปลงรายการจดทะเบียน) การประชุมผู้ถือหุ้น การสรรหาและการเป็นกรรมการบริษัท การประชุมคณะกรรมการบริษัท การจัดการเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของผู้ถือหุ้น หรือผู้ถือหุ้นกู้ การจ่ายเงินปันผล การจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ การจัดทำบัญชี และรายงาน การตรวจสอบ เอกสารตามกฎหมายการจัดส่งเอกสารหรือหนังสือต่าง ๆ รวมถึงหน้าที่ตามกฎหมายต่าง ๆ ของการเป็นบริษัทจำกัดบริษัทมหาชนจำกัดหรือบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (แล้วแต่กรณี) ฐานทางกฎหมายการปฏิบัติตามกฎหมาย
-
เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลอื่น เช่น การบริหารจัดการบริษัท การรักษาความปลอดภัย การจัดกิจกรรม หรือการส่งข่าวสาร หรือข้อเสนอใด ๆ เพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ หรือกรรมการ รวมถึงเพื่อใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
-
เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉินการควบคุมโรคติดต่อ การบันทึกอุณหภูมิและประวัติการเดินทางของท่าน ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต/เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย/การปฏิบัติตามกฎหมาย
-
เพื่อการชำระเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นหรือการชำระคืนเงินต้นและ/หรือดอกเบี้ย ผู้ถือหุ้นกู้การปฏิบัติตามกฎหมาย
-
เพื่อเป็นหลักฐานแห่งการประชุม เข้าร่วมประชุมและการบริหารจัดการในการจัดประชุมดังกล่าว เช่นการลงทะเบียนเข้าร่วมประชุม การลงมติเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
-
การดำเนินการคัดเลือก การจัดทำสัญญา การดำเนินการตามกระบวนการสรรหา การตรวจสอบคุณสมบัติ รวมถึงการปฏิบัติตามสัญญาการจ่ายค่าตอบแทน การให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ การปฏิบัติตามสัญญา/เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
-
เพื่อการบันทึกภาพ เสียง และ/หรือวิดีทัศน์ระหว่างการประชุม เพื่อประโยชน์ในการเผยแพร่การประชุมผ่านเว็บไซต์ของบริษัท และช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ของบริษัท หรือเพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับชมในภายหลัง หรือสำหรับการประชาสัมพันธ์เพื่อประโยชน์ของบริษัท หรือเพื่อประโยชน์ของผู้เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้หากท่านไม่ประสงค์จะถูกบันทึกภาพ หรือวีดีทัศน์ ท่านมีสิทธิที่จะแจ้งต่อบริษัทเพื่อปฏิเสธ หรือไม่เข้าร่วมขณะมีการบันทึกภาพ หรือวิดีทัศน์ เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
-
เพื่อบันทึกการประชุมและจัดทำรายงานการประชุมส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ปรึกษาทางกฎหมายของบริษัท ผู้ถือหุ้น รวมถึงการเผยแพร่รายละเอียดในเว็บไซต์ของบริษัทและช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ของบริษัทเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย/การปฏิบัติตามกฎหมาย
-
เพื่อการแจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมนักลงทุนสัมพันธ์ที่จัดให้แก่ท่านตามที่บริษัทเห็นสมควรและใช้เป็นข้อมูลสำหรับกระบวนการคัดเลือกผู้มีสิทธิเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
-
เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อจัดเตรียมกิจกรรม จัดเตรียมงานและอำนวยความสะดวกสำหรับท่านที่เข้าร่วมกิจกรรมที่บริษัทจัดขึ้นตามที่บริษัทเห็นสมควร เช่น การจัดเตรียมสถานที่ การจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มหรือจัดเตรียมยานพาหนะของที่ระลึก (ถ้ามี) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
-
เพื่อใช้ในการดำเนินการจัดทำประกันภัย หรือประกันการเดินทาง (ถ้ามี) กรณีที่ท่านเข้าร่วมกิจกรรมที่บริษัทจัดขึ้น เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
-
เพื่อเป็นฐานข้อมูล และเพื่อดำเนินการต่าง ๆเกี่ยวกับการให้สิทธิประโยชน์ใด ๆ เช่น สิทธิในการจองซื้อหุ้นบริษัทในกลุ่มที่เสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก สิทธิการจองซื้อหุ้นกู้ เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
-
เพื่อเป็นฐานข้อมูลผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทและ/หรือใช้ข้อมูลเพื่อการบริหารความสัมพันธ์ หรือการติดต่อประสานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
-
เพื่อการบริหารความเสี่ยง การควบคุมภายในองค์กรการกำกับการตรวจสอบ การตรวจสอบภายในรวมถึงการกำกับดูแลกิจการที่ดี และการบริหารจัดการภายในองค์กร เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
-
เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การดำเนินคดีต่าง ๆตลอดจนการดำเนินการเพื่อบังคับคดีตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
-
เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย คำสั่งของหน่วยงาน องค์กรอิสระหรือเจ้าพนักงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เช่นการปฏิบัติตามหมายเรียก คำสั่งศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ อัยการ หน่วยงานราชการ และรายงานหรือเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หรือองค์กรอิสระ การปฏิบัติตามกฎหมาย
ข้อ 3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ท่านให้ไว้กับบริษัทเท่านั้น ทั้งนี้บริษัทจะ
กำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ ซึ่งบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคล หรือองค์กร ดังต่อไปนี้
-
นายทะเบียนผู้ถือหุ้น นายทะเบียนหลักทรัพย์
-
หน่วยงานราชการ หน่วยงานในกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด
-
รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น ศาล ตำรวจ สำนักคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กรมสรรพากร
-
ผู้ให้บริการและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทในการให้บริการต่าง ๆ รวมถึง ผู้ที่ทำหน้าที่ในนามบริษัท หรือร่วมกับบริษัท เช่นการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ช่างภาพ ผู้รับจ้างที่บริษัทได้ว่าจ้างให้ดำเนินการจัดงาน และจัดกิจกรรม ต่าง ๆ หรือบริการอื่นใดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน ซึ่งมีความจำเป็นอย่างสมเหตุสมผลที่ต้องได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อทำให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในเอกสารฉบับนี้
-
ธนาคารในกรณีมีหน้าที่จ่ายเงินให้ท่านหรือบริษัทประกันในกรณีมีการเดินทางสำหรับท่านที่เข้าร่วมกิจกรรม
ข้อ 4. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
4.1 บริษัทอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือ หรือบุคคลอื่นในต่างประเทศในกรณีที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างบริษัท กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่านหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
4.2 บริษัทอาจเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ หรือคลาวด์ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่น
และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นในรูปแบบของการให้บริการซอฟท์แวร์สำเร็จรูปและรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มสำเร็จรูปในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแต่บริษัทจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และจะกำหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม
4.3 ในกรณีที่มีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองและท่านสามารถใช้ สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามกฎหมาย รวมถึงบริษัท จะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ โดยในบางกรณี บริษัทอาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศดังกล่าว
ข้อ 5. ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็นตามสมควรเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่
ของบริษัทเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในเอกสารนี้ เว้นแต่กฎหมายจะอนุญาตให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้นโดยในกรณีที่ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น
อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี) ซึ่งบริษัทจะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษา หรือที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ทั้งนี้ หากมีการดำเนินการทางศาล ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกจัดเก็บไว้จนกว่าจะสิ้นสุดการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงระยะเวลาใด ๆ ในการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์จากนั้นข้อมูลของท่านจะถูกลบหรือเก็บตามที่กฎหมายอนุญาต
ข้อ 6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทเคารพสิทธิส่วนบุคคลของท่าน และเปิดโอกาสให้ท่านสามารถเลือกวิธีการควบคุม
หรือวิธีการที่บริษัทใช้ติดต่อท่าน โดยบริษัทจะปฏิบัติตามที่ท่านได้ร้องขอ เพื่อช่วยให้เกิดความโปร่งใส
และเพื่อคุณภาพของข้อมูล และความถูกต้องของข้อมูล ท่านมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยท่านสามารถส่งคำขอให้บริษัททราบเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านช่องทางที่บริษัทกำหนดในการดำเนินการตามสิทธิ ดังต่อไปนี้
-
สิทธิขอถอนความยินยอม: หากท่านได้ให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน(ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัททั้งนี้ บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่า การเพิกถอนความยินยอมไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอม ไว้แล้วโดยชอบ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมาย หรือโดยสภาพ ไม่สามารถถอนความยินยอมได้ หรือมีสัญญาระหว่างท่านกับบริษัทที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ หรืออาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ได้
-
สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทและขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยว่าบริษัทได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไรเว้นแต่กรณีที่บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมาย หรือคำสั่งของศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
-
สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยัง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิคทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัท หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจำเป็นต้องประมวลผล เพื่อให้ท่านสามารถใช้บริการของบริษัทได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัท หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้บริการ หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด
-
สิทธิขอคัดค้าน: ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้หากประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นโดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติหากท่านยื่นคัดค้านบริษัทจะยังคงดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี
-
สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกประมวลผลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในประกาศฉบับนี้ หรือเมื่อบริษัทเห็นว่าสามารถปฏิบัติตามที่ท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
-
สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอคัดค้านของท่านหรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทน
-
สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบันสมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้ หากท่านประสงค์จะขอแก้ไขข้อมูลเกี่ยวกับภาพบริษัทจะทำการแก้ไขเฉพาะรายการข้อมูลที่เกี่ยวกับภาพของท่านเพื่อให้ถูกต้องตามความจำเป็นของบริษัทที่ชอบด้วยกฎหมายและในกรณีที่การดำเนินการตามคำขอก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายบริษัทอาจเรียกเก็บค่าใช้จ่ายดังกล่าวจากท่าน สิทธิร้องเรียน: ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อบริษัทผ่าน เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: (Data Protection Officer) อีเมล : DPO@supamitrhospital.com หรือผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหากท่านเชื่อว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ข้อ 7. วิธีการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล
7.1 การร้องขอใด ๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านจะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านทางระบบ
อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งบริษัทได้จัดให้มีขึ้นในเว็บไซต์ของบริษัท หรือกรอกข้อมูลผ่าน แบบฟอร์มคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล(Data Subject Request Form) ส่งมาที่ อีเมล : DPO@supamitrhospital.com หรือ ทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ที่ระบุไว้ในแบบฟอร์มดังกล่าวทั้งนี้ บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผลและไม่เกินระยะเวลา 30 วัน นับแต่ได้รับคำร้อง อย่างไรก็ดี บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านในกรณีที่มีข้อยกเว้นตามกฎหมาย หรือบริษัทจะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาได้หรือมีผลกระทบกับการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา หรือเป็นการปฏิเสธตามคำสั่งศาล หรือหากบริษัทดำเนินการตามคำขอของท่านจะส่งผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น โดยบริษัทจะดำเนินการบันทึกการปฏิเสธคำร้องขอพร้อมด้วยเหตุผลไว้ ทั้งนี้หากปรากฏอย่างชัดเจนว่าคำร้องขอของท่านเป็นคำร้องขอที่ไม่สมเหตุสมผลหรือคำร้องขอฟุ่มเฟือยบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการดำเนินการตามที่ท่านร้องขอในอัตราที่บริษัทกำหนด
7.2 บริษัทจะพยายามอย่างเต็มที่ตามความสามารถของระบบงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินการตามคำร้องขอของท่าน เว้นแต่จะปรากฏข้อเท็จจริงว่า การดำเนินการตามคำร้องขอนั้นเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้ใช้งานรายอื่น หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือนโยบายความปลอดภัยของระบบ หรือกรณีที่เป็นการพ้นวิสัยในทางปฏิบัติตามคำร้องขอ เนื่องมาจากเหตุทางเทคนิค
7.3 ในบางสถานการณ์บริษัทอาจขอให้ท่านพิสูจน์ตัวตนของท่านก่อนการใช้สิทธิเพื่อความปลอดภัยของท่านเองโดยบางครั้งอาจเกิดข้อจำกัดในการขอใช้สิทธิของท่านบางประการซึ่งบริษัทจะทำการชี้แจงให้ท่านทราบหากไม่สามารถปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านได้
7.4 หากเป็นกรณีกิจกรรมที่บริษัททำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามฐานการปฏิบัติตามสัญญา หรือฐานเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายบริษัทมีสิทธิปฏิเสธการใช้สิทธิของท่านในกรณีที่ท่านใช้สิทธิโต้แย้ง หรือขอระงับการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน และขอให้ดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านได้ รวมถึงบริษัทอาจปฏิเสธที่จะดำเนินการตามคำร้องขอของท่าน หากบริษัท มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลต่อไป เพื่อการกระทำการ ดังต่อไปนี้
-
เพื่อทำรายการใด ๆ ตามวัตถุประสงค์ที่บริษัท เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นหรือดำเนินการตามสมควรภายในขอบเขตความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างบริษัทกับท่าน
-
เพื่อใช้เป็นการภายในตามสมควรโดยสอดคล้องกับความคาดหมายของท่านที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับบริษัท และสอดคล้องกับบริบทที่ท่านได้ให้ข้อมูลดังกล่าวไว้แต่แรก และเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ข้อบังคับ กฎ หรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง
7.5 ในกรณีที่ท่านไม่ประสงค์ถูกบันทึกภาพ ท่านมีสิทธิที่จะขอรับและติดสัญลักษณ์ “ห้ามถ่ายภาพ
บุคคล” ตลอดการร่วมประชุม ทั้งนี้บริษัทขอเรียนให้ทราบว่าด้วยลักษณะการจัดกิจกรรมอาจมีการถ่ายภาพบรรยากาศกิจกรรมซึ่งแม้ท่านขอรับสัญลักษณ์ดังกล่าวแล้วก็ตาม ก็อาจปรากฎภาพของท่านเป็นส่วนประกอบของภาพได้ ดังนั้นบริษัทจึงแนะนำให้ท่านแจ้งต่อบริษัทเพื่อปฏิเสธขณะที่บริษัทกำลังบันทึกภาพ หรือหลีกเลี่ยงบริเวณที่บันทึกภาพ หรือไม่เข้าร่วมกิจกรรมขณะมีการบันทึกภาพ หรือภาพเคลื่อนไหว
7.6 บริษัทจำเป็นต้องแจ้งให้ทราบว่า การขอใช้สิทธิของท่านบางประการ อาจเกิดข้อจำกัด ในกรณี
ที่ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นข้อมูลที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อบริษัทในการปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อการชำระเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ ตัวแทนของบุคคลดังกล่าว และการบริการจัดการทะเบียนผู้ถือหุ้น และข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อบริษัทในการปฏิบัติตามสัญญา หรือข้อกำหนดว่าด้วยสิทธิ และหน้าของผู้ออกหุ้น ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นแก่บริษัท หรือใช้สิทธิ ขอให้ลบ ระงับการใช้ข้อมูล บริษัทอาจไม่สามารถบริการหรือจัดการสัญญาระหว่างท่านกับบริษัท รวมถึงสิทธิประโยชน์ที่ท่านอาจจะได้รับ
ข้อ 8. มาตรการการรักษาความปลอดภัย
บริษัทกำหนดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม เพื่อป้องกัน
การสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจหรือโดยขัดต่อกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและวิธีปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศของบริษัทและนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
ข้อ 9. ช่องทางการติดต่อบริษัท
กรณีที่เจ้าของข้อมูลมีข้อสงสัยใด ๆ หรือต้องการใช้สิทธิตามที่กำหนดไว้ในนโยบายนี้ หรือสอบถามเพิ่มเติมผ่านช่องทาง ดังนี้
เรื่องเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล : ติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: (Data Protection Officer)
อีเมล : DPO@supamitrhospital.com
หมายเลขโทรศัพท์ 035-523777 ต่อ เลขานุการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เรื่องทั่วไป : ติดต่อเลขานุการบริษัท
อีเมล : c.puangpetch@supamitrhospital.com , b.jirawan@supamitrhospital.com
ที่อยู่ : 76 ถนนเณรแก้ว ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี 72000
หมายเลขโทรศัพท์ : 098-2651108
ข้อ 10. การแก้ไขเปลี่ยนแปลง
บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไข ทบทวน และปรับปรุงประกาศความเป็นส่วนตัวที่จะมีผลบังคับใช้
ณ เวลาที่ได้เผยแพร่ต่อไปโดยมิต้องแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า ทั้งนี้
เพื่อความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการให้บริการ ดังนั้น
บริษัทจึงขอแนะนำให้ท่านอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวทุกครั้งที่เยี่ยมชม หรือใช้บริการจากบริษัท
หรือเว็บไซต์ของบริษัท
จึงประกาศมาเพื่อทราบ
ประกาศ ณ วันที่ 1 มกราคม 2566
บริษัท โรงพยาบาลศุภมิตร จำกัด (มหาชน)