top of page

นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้รับบริการทางการแพทย์ โรงพยาบาลศุภมิตร

placeholder.png

เรื่อง คำประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับผู้รับบริการทางการแพทย์ โรงพยาบาลศุภมิตร (ต่อไปนี้เรียกว่า“โรงพยาบาล”) เป็นหน่วยงานหนึ่งของ บริษัท โรงพยาบาลศุภมิตร จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลชองผู้รับบริการทางการแพทย์ (ต่อไปบี้เรียกว่า “ท่าน”) ที่เข้ารับบริการในโรงพยาบาล จึงจัดทำคำประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้รับบริการ ทางการแพทย์ เพื่ออธิบายให้ท่านทราบว่า โรงพยาบาล เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร รวมถึงสิทธิที่ท่านมีในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

คำประกาศความเป็นส่วนบี้จะมีการปรับปรุงเป็นครั้งคราว ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ใหม่ในการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปีดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยก่อนจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ด้วยวัตถุประสงค์ใหม่ โรงพยาบาล อาจจำเป็นต้องขอความยินยอมจากท่านในบางกรณี ขึ้นกับประเภทของข้อมูลและวัตถุประสงค์ของ การประมวลผล คำประกาศที่ท่านอ่านอยู่บี้เป็นคำประกาศฉบับปรับปรุงส่าสุด
กรณีที่จำเป็นต้องขอความยินยอม ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลที่มีอายุตํ่ากว่า 18 ปี หรือยังไม่บรรลุนิติภาวะโดยการสมรส หรือจากผู้รู้ความสามารถหรือเสมือนไร้ ความสามารถ โรงพยาบาลจะดำเนินการขอความยินยอมจากผู้มีอำนาจกระทำการแทน


1. คำนิยาม

ดำประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ กำหนดบทนิยามไว้ดังต่อไปนี้
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่า ทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการทางการแพทย์ แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม โดยเฉพาะ
“ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้ของผู้รับบริการทาง การแพทย์ ซึ่งมีความละเอียดอ่อนและสุ่มเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม จึงจำเป็นต้อง ดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ เข่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อ1โนลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวะมิติ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อผู้รับบริการทางการแพทย์ในทำนองเดียวกัน ความเสียหายตามนิยามบี้ รวมถึง การขาดเสรีภาพ การถูกดูหมิ่น การถูกเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ความอับอาย

“ผู้รับบริการทางการแพทย์” หมายถึง ผู้เข้ารับบริการตรวจสุขภาพ หรือรับการตรวจวินิจฉัยโรค หรือรับ การรักษาหรือการพยาบาล กับทางโรงพยาบาล
“การประมวลผลข้อมูล” หมายถึง การกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดต่อข้อมูล ไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติ หรือไม่ก็ตาม เซ่น การเก็บรวบรวม การบันทึก การจัดระบบ การจัดเรียง การจัดเก็บ การแปลงหรือการ เปลี่ยนแปลงแก้ไข การค้นคืน การค้นหา การใช้ การเปิดเผยโดยการส่ง การแพร่กระจาย หรือการทำให้ล่วงรูได้
โดยวิธีอื่น การวางเคียงกันหรือการรวมกัน การจำกัด การลบหรือการทำลาย
“ข้อมูลสุขภาพ” หมายถึง ข้อมูล ไม่ว่าจะถ่ายทอดด้วยวาจาหรือเก็บบันทึกอยู่ในรูปแบบใดหรือสื่อใด ที่ เกิดขึ้นหรือได้รับจากการให้บริการหรือการจัดการด้านสุขภาพ รวมไปถึงข้อมูลที่เกิดขึ้นหรือได้รับจากการชำระ ค่าบริการ ที่อาจเปิดเผยหรือบ่งบอกเกี่ยวกับสุขภาพหรือสภาพทางร่างกายหรือจิตใจ ในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต ของบุคคลหนึ่งได้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม


2. ขอบเขตด้านเนื้อหา

คำประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ จัดทำขึ้นสำหรับผู้รับบริการทางการแพทย์เป็นหลัก กรณีที่ท่านใช้บริการ ผ่านทางซ่องทางออนไลน์ของโรงพยาบาล เซ่น เว็บไซต์ แอปพลิเคซันสื่อลังคมออนไลน์ อีเมล์ SMS ขอให้ท่านดู ขอให้ท่านดูประกาศความเป็นส่วนตัวได้ที่ www.supamitrhospital.com หรือ นโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคขันหรือสื่อสังคมออนไลน่อื่นของผู้จัดทำดังกล่าว เพื่อทราบวิธีที่โรงพยาบาล เก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผย ข้อมูลส่วนตัวสำหรับผู้ใช้งานออนไลน์เพิ่มเติมด้วย
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของโรงพยาบาล ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับท่าน ไม่ว่าจะอยู่ใน รูปแบบข้อความ ภาพ หรือเสียง ที่เกิดขึ้นจากระบบการให้บริการและการจัดการทางการแพทย์ของโรงพยาบาล และถูกเก็บบันทึกไว้อย่างเป็นระบบในลักษณะที่สามารถค้นคืนได้

3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

โรงพยาบาล อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยตรงจากผู้รับบริการทางการแพทย์ หรือโดยอ้อมจาก แหล่งอื่นทั้งนี้โรงพยาบาลจะแจ้งการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นให้ท่านทราบภายใน 30วันนับแต่ วันที่ได้เก็บรวบรวม เว้นแต่การแจ้งดังกล่าวไม่สามารถทำได้ หรือไม่จำเป็นต้องแจ้ง ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมาย กำหนดไว้
 


4.ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาล เก็บรวบรวม

โรงพยาบาลอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน ดังต่อไปนี้
1. ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป เซ่น ขื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด เพศ สัญชาติ
2. ข้อมูลการติดต่อ เซ่น ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ข้อมูล ติดต่อกรณีฉุกเฉิน
3. ข้อมูลเลขประจำตัวหรืออุปกรณ์ เซ่น เลขประจำตัวประซาขน ไอพีแอดเดรส
4. ข้อมูลพิสูจน์ตัวตนเพื่อเข้าใช้งานแอปพลิเคชั่นของโรงพยาบาล เข่น ซื่อผู้ใช้'งาน รหัสผ่าน
5. ข้อมูลรูปภาพหรือวิดีโอที่เห็นใบหน้าหรือระบุตัวบุคคลได้
6. ข้อมูลอ่อนไหว เข่น เชื้อชาติ ศาสนา ข้อมูลพันธุกรรม พฤติกรรมทางเพศ รวมถึงข้อมูลสุขภาพ เข่น ข้อมูลการซักประวัติและการตรวจร่างกายโดยแพทย์ ภาพถ่ายรอยโรค ภาพถ่ายรังสี ผลการวินิจฉัย ประ'วัติการ รักษา ประ'วัติการ'ใช้ยา ใบสั่งยา ใบนัดแพทย์ ใบแจ้งค่ารักษาพยาบาล
7. ข้อมูลสิทธิการรักษาพยาบาล ประกันสุขภาพและประกันภัย หมายเลขกรมธรรม์
8. ข้อมูลการขำระค่าบริการ เข่น วิธีขำระเงิน ประวัติการขำระเงิน หมายเลขบัตรเครดิต


5. ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว (Sensitive Personal Data)

อมูลส่วนบุคคลข้างด้นที่ระบุเครื่องหมาย * ไว้นั้น เป็นข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ตามมาตรา 26 แห่ง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โรงพยาบาลจะควบคุมการเข้าถึงและการเปิดเผยข้อมูลส่วน บุคคลอ่อนไหวด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ และหากมีกรณีใดที่จำเป็นต้องขอความยินยอมจากท่านในการ ประมวลผลข้อมูลดังกล่าว โรงพยาบาลจะแจ้งความจำเป็นให้ท่านทราบเพื่อขอความยินยอมตามหลักเกณฑ์ที่ กฎหมายกำหนด


6. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

โรงพยาบาลจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยวิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายโปร่งใส และเป็นธรรม โดยจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์โดยอาศัยฐานทางกฎหมายตามพระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ตามรายละเอียดตังต่อไปนี้
วัตถุประสงค์ด้านบริการทางการแพทย์

  • เพื่อใช้สำหรับการยืนยันตัวของ ท่าน การนัดหมายเพื่อติดตามการรักษา การประสานงานและส่งต่อการรักษา อาจมีการเปิดเผยข้อมูลด้าน สุขภาพแก่ทีมผู้ประกอบวิชาชีพ เพื่อประโยชน์ในการรักษาและ ให้บริการทางการแพทย์อื่น ๆ ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป ข้อมูลการติดต่อ ฐานทางกฎหมายที่ใช้ ฐานเพื่อป้องกันหรือระงับ อันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือ สุขภาพของบุคคล ตามมาตรา24(1) หรือ ฐานการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตาม สัญญาการให้บริการทางการแพทย์ ตามมาตรา 24(3) ความยินยอมได้ ไม่ว่าด้วยเหตุใด ก็ตาม ตามมาตรา 26(1) หรือ - ฐานการจำเป็นในการปฏิบัติ ตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุ วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการ วินิจฉัยโรคทางการแพทย์ การ ให้บริการด้านสุขภาพ การรักษา ทางการแพทย์ และการจัดการ ด้านสุขภาพ ตามมาตรา 26(5)

  • เพื่อใช้ประกอบการวินิจฉัยโรคหรืออาการของท่าน การรักษา รวมทั้งการให้บริการทาง การแพทย์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และเพื่อใช้ประกอบการให้คำปรึกษาการวินิจฉัย หรือการรักษา ในการให้บริการทางการแพทย์ระยะไกลผ่านช่องทางออนใลน์ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลด้านสุขภาพ ฐานทางกฎหมายที่ใช้ ฐานเพื่อป้องกันหรือระงับ อันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือ สุขภาพของบุคคลซึ่งเจ้าของ ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ ฐานความยินยอมโดยชัดแจง ตาม
    มาตรา 26 หรือ ฐานเพื่อปองกันหรือระงับ อันตราย ตอชีวิต รางกาย หรือ สุขภาพของ บุคคลซึ่งเจ้าของ ข้อมูลสวนบุคคลไม่สามารถให้ ความยินยอมได้ ไม่ว่าด้วย
    เหตุใด ก็ตาม ตามมาตรา 26(1) หรือ ฐานการจําเปนในการปฏิบัติ ตาม กฎหมายเพื่อใหบรรลุ วัตถุประสงค เกี่ยวกับการ วินิจฉัยโรคทางการแพทย การ ใหบริการดานสุขภาพ การรักษา ทางการแพทย และการจัดการ ด้านสุขภาพ ตามมาตรา 26(5)(ก) ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลด้านสุขภาพ ฐานเพื่อป้องกันหรือระงับ อันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพชองบุคคล ตามมาตรา 24(1) หรือฐานการจำเป็นเพื่อปฏิษัติตาม สัญญาการให้บริการทางการแพทย์ ตามมาตรา 24(3)

  • เพื่อใช้สำหรับการเบิกค่า รักษาพยาบาลรวมถึงค่าใช้จ่าย ด้านบริการทางการแพทย์อื่นที่ เกี่ยวช้อง ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป ข้อมูลทางการเงิน ฐานทางกฎหมายที่ใช้ ฐานการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตาม สัญญาการให้บริการทาง การแพทย์ ตามมาตรา 24(3) ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลสุขภาพฐานการจำเป็นในการปฏิบัติตาม กฎหมายเพื่อให้บรรลุ วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจัด สวัสดิการด้านการรักษาพยาบาล ของผู้มีสิทธิตามกฎหมาย ตาม มาตรา 26(5)(ค)

 

​วัตถุประสงค์ด้านการศึกษาโครงการวิจัย

  • เพื่อจัดทำโครงการวิจัยในนาม ของโรงพยาบาล โดยใช้ข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านที่ยินยอมเช้า ร่วมการวิจัยและยินยอมให้เก็บ รวบรวมข้อมูลดังกล่าว ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล ฐานทางกฎหมายที่ใช้ ฐานความยินยอม ตามมาตรา 24  ประเภทข้อมูล ฐานทางกฎหมายที่ใช้ ฐานความยินยอมโดยซัดแจ้ง ตามมาตรา 26

  • เพื่อจัดทำโครงการวิจัยในนาม ของโรงพยาบาล โดยใช้ข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านที่มีอยู่แล้ว จากฐานข้อมูลภายใน โรงพยาบาล ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป ฐานทางกฎหมายที่ใช้ ฐานเพื่อการศึกษาวิจัยหรือสถิติ ตามมาตรา 24(1) หรือ ฐานการจำเป็นเพื่อประโยชน์ โดยขอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา 24(5) ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลสุขภาพ ฐานทางกฎหมายที่ใช้ ฐานเพื่อการศึกษาวิจัยทาง วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือ สถิติ หรือประโยซน์สาธารณะอื่นตามมาตรา 26(5)(ง)

  • เพื่อจัดทำโครงการวิจัยในนาม ของโรงพยาบาล โดยใช้ข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านที่มีอยู่แล้ว จากฐานข้อมูลภายใน โรงพยาบาล ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป ฐานทางกฎหมายที่ใช้ ฐานความยินยอม ตามมาตรา24 ฐานทางกฎหมายที่ใช้ ฐานเพื่อการศึกษาวิจัยหรือสถิติ ตามมาตรา 24(1) หรือ-ฐานการจำเป็นเพื่อประโยชน์ โด ขอบด้วยกฎหมาย ตาม มาตรา 24(5)

  • เปิดเผยแก่คู่สัญญา ผู้รับจ้าง ผู้รับเหมา หรือหน่วยงาน ภายนอกที่มีสัญญาหรือข้อตกลง กับโรงพยาบาล เปิดเผยแก่หน่วยงานอื่นอัน เนื่องมาจากเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือตามที่กฎหมายเฉพาะบัญญัติ ให้ต้องเปิดเผย ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลสุขภาพ ฐานทางกฎหมายที่ใช้ ฐานการจำเป็นในการปฏิบัติ ตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุ วัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยขน์ สาธารณะต้านสาธารณสุขหรือ ต้านอื่น ๆ ที่สำคัญ ตามมาตรา 26(5)0ข) ฐานการจำเป็นในการนำข้อมูล ต้านสุขภาพมาใช้หรือเปิดเผยเพื่อ ก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใข้สิทธิ เรียกร้องตามกฎหมาย หรือใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวเพื่อ ยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตาม กฎหมาย ตามมาตรา 26(4) หรือ ฐานการจำเป็นในการปฏิบัติ ตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุ วัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยซน์ สาธารณะต้านสาธารณสุขหรือ ต้านอื่น ๆ ที่สำคัญ ตามมาตรา 26(5)0ข) และ 26(5)0จ)

  • เพื่อใช้สำหรับการโฆษณาหรือ ประซาสัมพันธ์บริการของโรงพยาบาล และโรงพยาบาล (กรณีที่อาจระบุตัวบุคคลไต้) ข้อมูลรูปภาพหรือวิดีโอตัวบุคคล ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลสุขภาพ ฐานความยินยอมโดยซัดแจ้งตามมาตรา 26

  • เพื่อใช้สำหรับการโฆษณาหรือ ประซาสัมพันธ์บริการของโรงพยาบาล และโรงพยาบาล (กรณีที่อาจระบุตัวบุคคลไต้) ข้อมูลรูปภาพหรือวิดีโอตัวบุคคล ข้อมูลสุขภาพ ฐานความยินยอมโดยซัดแจ้งตามมาตรา 26

  • เพื่อส่งจดหมายข่าวประซาสัมพันธ์ นำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการของโรงพยาบาลแก่ท่านโดยตรง ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป ข้อมูลการติดต่อ ฐานการจำเป็นเพื่อประโยขนํ โดยขอบด้วยกฎหมายสำหรับการ เสนอผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ ให้แก่ผู้รับบริการทางการแพทย์ ซึ่งเคยใช้บริการทางการแพทย์ ภายในโรงพยาบาลมาก่อน ตามมาตรา 24(5) หรือ ฐานความยินยอมในกรณีที่ไม่ เคยใช้บริการทางการแพทย์ภายในโรงพยาบาล ตาม มาตรา 24

  • เพื่อรวบรวมสถิติการให้บริการ ทางการแพทย์ที่สามารถระบุตัว บุคคลได้ ให้แก่สภาวิชาชีพหรือ องค์การควบคุมการประกอบ วิขาชีพด้านการแพทย์ เซ่น ราชวิทยาลัยต่าง ๆ ข้อมูลสุขภาพ ฐานการจำเป็นในการปฏิบัติ ตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุ วัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยชน์ สาธารณะด้านสาธารณสุขหรือ ด้านอื่น ๆ ที่สำคัญ ตามมาตรา 26(5)0ข) และ 26(5)(จ)

  • เพื่อสำรวจความพึงพอใจในการ ให้บริการ ตอบข้อซักถามหรือข้อร้องเรียน ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป ข้อมูลการติดต่อ ฐานการจำเป็นในการปฏิบัติตาม กฎหมายเพื่อให้บรรลุ วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการเพื่อ สำรวจความพึงพอใจในการให้บริการ ตอบข้อซักถามหรือข้อร้องเรียน 26(5)(ก)


7. การใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง

นอกจากใช้หรือเปีดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคลากรและเจ้าหน้าที่ภายในโรงพยาบาลเพื่อปฏิบัติ หน้าที่ของตนแล้ว โรงพยาบาล อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านแก่บุคคลหรือหน่วยงานอื่น (ต่อไปนี้เรียกว่า “ผู้รับ ข้อมูล”) ดังตัวอย่างต่อไปนี้
- อาจมีการเปิดเผยข้อมูลแก่ผู้ประกอบวิชาชีพในโรงพยาบาลอื่นในกรณีส่งต่อการรักษา หรือเปิดเผยแก่ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่างสถาบันเพื่อขอคำปรึกษาในการรักษา ซึ่งอาจเกิดขึ้นทั้งในกรณีฉุกเฉินและไม่ฉุกเฉิน
- อาจมีการเปิดเผยข้อมูลสุขภาพบางประการแก่บุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องในการดูแลท่าน เซ่น สมาซิก ครอบครัว ญาติ เพื่อน เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ เจ้าหน้าที่บ้านพักคนชรา เพื่อประโยชน์ของท่าน
- กรณีที่ท่านพาญาติหรือบุ
คคลอื่นมาเป็นเพื่อนท่านหรือทำหน้าที่คอยดูแลท่าน ระหว่างที่ท่านเข้ารับ บริการภายใน

โรงพยาบาลหรือศูนย์การแพทย์ โรงพยาบาล จะถือว่าท่านยินยอมโดยปริยายให้บุคคลเหล่านั้นทราบ ข้อมูลความเจ็บป่วยของท่านระหว่างที่ผู้ประกอบวิชาชีพให้คำปรึกษาแก'ท่าน
- ในขณะที่แพทย์ พยาบาล หรือเจ้าหน้าที่เวชระเบียนของโรงพยาบาล ระมัดระวังอย่างยิ่งที่จะไม่สื่อสาร กับท่าน หรือสื่อสารระหว่างทีมผู้ประกอบวิชาชีพ ในลักษณะที่จะทำให้ผู้ป่วยคนอื่นได้ยินหรือทราบถืงบัญหา สุขภาพของท่าน แต่สภาพโดยธรรมชาติของการให้บริการภายในโรงพยาบาลอาจทำให้มีกรณีทีไม่สามารถบีองกันให้ ผู้อื่นล่วงรู้ข้อมูลเกี่ยวกับท่านได้อย่างสิ้นเซิง เซ่น ผู้ป่วยคนอื่นที่ยืนต่อคิวอยู่ข้างหลังท่านอาจได้ยินข้อมูลเกี่ยวกับ ปัญหาสุขภาพของท่านขณะที่ท่านกำลังสื่อสารกับพยาบาลที่ทำหน้าที่คัดกรอง หรือหากแพทย์กำลังเยี่ยมผู้ป่วยอยู่ ในห้องผู้ป่วยรวม ผู้ป่วยคนอื่นอาจได้ยินเสียงสนทนาระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยของเตียงที่อยู่ข้างกัน เป็นด้น
- อาจมีการเปิดเผยข้อมูลแก่สภาวิชาชีพหรือองค์การควบคุมการประกอบวิชาชีพด้านการแพทย์ เซ่น ราช วิทยาลัยต่าง ๆ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการจัดทำสถิติการให้บริการด้านการแพทย์ภายในประเทศ
- อาจมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับสถาบันการศึกษาอื่นที่ทำข้อตกลงไว้กับโรงพยาบาล เพื่อประโยชน์ในการ เรียนการสอน การผีเกอบรม การแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน
- อาจมีการเปิดเผยข้อมูลแก่หน่วยงานที่รับผิดชอบในการประกันสุขภาพ เซ่น หน่วยงานสังคมสงเคราะห์ สำนักงานประกันสังคม กรมบัญชีกลาง บริษัทประกันภัย เพื่อให้สิทธิประโยชน์ด้านการซ่าระค่ารักษาพยาบาลแก่ ท่าน
- อาจมีการเปิดเผยข้อมูลแก่คู่สัญญา ผู้รับจ้าง ผู้รับเหมา หรือหน่วยงานที่มีสัญญาหรือข้อตกลงด้านการ ให้บริการกับโรงพยาบาล
- อาจมีการเปิดเผยข้อมูลแก่นักวิจัยต่างสถาบันที่มีข้อตกลงในการทำวิจัยร่วมกัน
- อาจมีการเปิดเผยข้อมูลแก่ผู้ตรวจสอบภายในและผู้ตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอกเพื่อวัตถุประสงค์ใน การปรับปรุงหรือควบคุมคุณภาพการให้บริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาล

- อาจมีการเปิดเผยข้อมูลแก่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ
- อาจมีการเปิดเผยข้อมูลแก่ที่ปรึกษาทางกฎหมายของโรงพยาบาล
- อาจมีการเปิดเผยข้อมูลแก,หน่วยงานอื่นเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือตามที่กฎหมายเฉพาะบัญญัติ ให้ต้องเปิดเผย
ทั้งนี้ การที่โรงพยาบาลใช้หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้บุคคลหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องนั้น โรงพยาบาล จะจัดดำเนินการในกรอบของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เซ่น ขอความยินยอมจากท่านหากจำเป็น หรือจัด ให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เซ่น ปิดบังตัวตน เข้ารหัส และทำข้อตกลงกับผู้รับข้อมูลเพื่อ บีองกันมีให้มีการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลโดยมิขอบ ซึ่งอาจเป็นข้อตกลงการรักษาความลับ ข้อตกลงการประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อตกลงการแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคล แล้วแต่กรณี


8.การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

ในกรณีที่โรงพยาบาลจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ โรงพยาบาลจะ ดำเนินการเพื่อทำให้มั่นใจว่าข้อมูลของท่านจะมีการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศตามบทกฎหมาย ว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่ประเทศปลายทางหรือหน่วยงานที่รับข้อมูลในประเทศปลายทางส่วนบุคคลมีมาตรการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลไม่เพียงพอหรือไม่สอดคล้องตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย โรงพยาบาล จะดำเนินการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างจำกัดเฉพาะเท่าที่จำเป็น ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ไว้ และอาจจำเป็นต้องขอความยินยอมโดยซัดแจ้งจากท่าน

9.การเก็บรักษาและการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล

โรงพยาบาล จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ของโรงพยาบาล ตามที่แจ้งไว้ หรือเป็นระยะเวลาเท่าที่กฎหมายกำหนดไว้ หรือตราบเท่าที่ท่านยังคงให้ความ ยินยอมในการรักษาข้อมูลของท่านอยู่ โดยเมื่อสิ้นความจำเป็นในการเก็บรักษา หรือท่านขอถอนความยินยอม หรือ ท่านไม่ได้ขอให้โรงพยาบาล เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้ง ปฏิบัติตาม ใช้ หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย โรงพยาบาลจะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ ข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนไต้อีกต่อไป

10.ผลกระทบจากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล

โรงพยาบาลจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้บริการทางการแพทย์แก่ท่านไต้ การไม่ให้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่โรงพยาบาล ทำให้โรงพยาบาล ไม่สามารถให้บริการทางการแพทย์แก่ท่านได้
บางกรณีโรงพยาบาล อาจจำเป็นต้องขอความยินยอมเพื่อเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บางอย่างของท่าน ซึ่งหากท่านไมให้ความยินยอม ท่านจะไม่สามารถรับบริการได้ หรืออาจได้รับความสะดวกจาก การใช้บริการลดลง เซ่น ไม่ได้รับจดหมายข่าวประขาสัมพันธ์ หรือไม่สามารถใช้บริการการแพทย์ระยะไกล ทั้งนี้ การไม่ให้ความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการได้รับการบริการพื้นฐานหลักจากโรงพยาบาลแต่อย่างใด

11.สิทธิของผู้รับบริการทางการแพทย์ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

พระราชบัญญ้ติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ให้สิทธิแก่เจ้าของข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
ดังนี้
(1) สิทธิขอถอนความยินยอม
(2) สิทธิขอเข้าถึงและจอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล
(3) สิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อสามารถกระทำได้ด้วยวิธีการอัตโนม้ติ
(4) สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
(5) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
(6) สิทธิขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
(7) สิทธิจอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
(8) สิทธิร้องเรียนเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
โดยท่านสามารถติดต่อสอบถามเรื่องสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือแจ้งความจำนงขอใช้สิทธิของ ท่านได้ ตามซ่องทางและหลักเกณฑ์ที่โรงพยาบาล กำหนดไว้
ทั้งนี้ โรงพยาบาล อาจปฏิเสธคำขอใช้สิทธิของท่านทั้งหมดหรือบางส่วนได้ ขึ้นกับหลักเกณฑ์ของกฎหมาย เซ่น เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าการดำเนินตามคำขอท่านจะส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือคำขอ ของท่านเป็นคำขอที่ไม่สมเหตุสมผล โดยโรงพยาบาล จะขึ้นแจงให้ท่านทราบ หากมีข้อจำกัดบางประการในการ ดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิของท่าน

โดยทั่วไป โรงพยาบาล จะดำเนินการตามคำขอของท่าน ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่โรงพยาบาล ได้รับคำ ร้องขอพร้อมกับหลักฐานประกอบที่สมบูรณ์ครบถ้วน หากมีกรณีที่พิจารณาแล้วว่า จำเป็นต้องใช้เวลาดำเนินการ มากกว่า 30 วัน โรงพยาบาลจะแจ้งให้ท่านทราบโดยเร็ว

12.การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในอนาคตเพื่อพัฒนาให้เกิดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ดีขึ้น โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าว

13.คำถามหรือข้อสงสัย

หากท่านมีคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับคำประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้รับบริการทางการแพทย์ของ โรงพยาบาล โปรดติดต่อ

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
ไปรษณีย์: บริษัท รพ.ศุภมิตร จำกัด (มหาชน) จำกัด
เลขที่ 76 ถนนเณรแก้ว ตำบนท่าพี่เลี้ยง อ.เมือง จังหวัดสุพรรณบุรี 72000
อีเมล: DPO@supamitrhospital.com
โทรศัพท์: 035-523777 ต่อ 2441
เว็บไซต์: https://www.supamitrhospital.com/
จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

ประกาศ ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2565
บริษัท โรงพยาบาลศุภมิตร จำกัด (มหาชน)

bottom of page